หน้าแรก

วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

บิ๊กไบค์


ประวัติบิ๊กไบค์ Big Bike


     Bigbike คือ คำที่ใช้เรียกรถมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดใหญ่กว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆไปหรือที่เรียกกันจนติดปากว่า สี่สูบ ขนาดของมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดใหญ่ในที่นี้คือขนาดของเครื่องยนต์ เฟรม ล้อและยางของรถ รถที่เรียกว่าBigbike จะมีความจุของเครื่องยนต์ตั้งแต่ 250 cc ขึ้นไปจนถึง 2400 cc ซึ่งในแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็จะมีรูปแบบของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่แตกต่างกันออกไปซึ่งจะมีตั้งแต่สูบเดี่ยว ถึง 6 สูบ และจัดวางอยู่ในรูปแบบของสูบเรียงและสูบ vในส่วนระบบส่งกำลังก็จะมีตั้งแต่ระบบที่ใช้โซ่ ใช้เพลาขับ และใช้สายพาน เป็นต้น
     Naked Bike เป็นชื่อที่ใช้เรียกรถBigbike ที่มีรูปแบบเป็นรถเปลือยแฟริ่งในส่วนด้านหน้า จะมีแฟริ่งในส่วนด้านท้ายของรถเท่านั้น ข้อดีของรถประเภทนี้คือสามารถใช้ขับขี่ในเขตชุมชนที่มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่นได้ง่ายและสามารถระบายความร้อนออกจากเครื่องยนต์ได้ดีกว่ารถ Bigbike ประเภทอื่นๆ และยังมีการออกแบบให้มีท่วงท่าในการขับขี่ที่ไม่ต้องก้มหรือโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อจับแฮนด์มากนัก โดยมีการออกแบบให้แฮนด์อยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างสูงและมีเบาะที่ต่ำกว่ารถ Sport Bike
     Sport Bike คือรถBigbike ที่มีการออกแบบมาเพื่อใช้ในการแข่งขันทางเรียบเนื่องจากรถประเภทนี้จะมีสมรรถนะของเครื่องยนต์และช่วงล่างสูงมากกว่ารถBigbike ประเภทอื่นๆ ซึ่งรถประเภทนี้มีท่วงท่าในการขับขี่แบบกึ่งนั่งกึ่งหมอบเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและทรงตัวในการใช้ความเร็วสูงๆและควบคุมอาการของรถในการเข้าโค้งได้เต็มประสิทธิภาพ


บิ๊กไบค์ มีกี่ประเภท เรามาหาคำตอบกัน


     
Naked Bike(นักเก็ต ไบค์)

     Naked Bike(นักเก็ต ไบค์) เป็นรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike ที่มีรูปแบบของตัวรถมอเตอร์ไซค์ที่เปลือยแฟริ่งในส่วนหน้าของรถมอเตอร์ไซค์ จะมีแฟริ่งเพียงแค่ด้ายท้ายของรถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น ซึ่งข้อดีของ บิ๊กไบค์ แนว Naked Bike นั้นจะเหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองหลวง การขับขี่ในชุมชน การขับขี่ในการจราจรที่หนาแน่น รถมอเตอร์ไซค์แนว นักเก็ต ไบค์ จะมีการขับขี่ที่ง่ายสำหรับสภาพแวดล้อมแบบนั้น การระบายความร้อนของรถมอเตอร์ไซค์ Naked ก็จะมีการระบายความร้อนได้ดีกว่ารถมอเตอร์ไซค์ Bigbike ประเภทอื่นๆ และข้อดีอีกหนึ่งจุดของรถมอเตอร์ไซค์ นักเก็ต ก็คือการออกแบบให้แฮนด์ของรถอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าเบาะคนขี่ ทำให้การขับขี่รถ Naked Bike มีท่วงท่าในการขับขี่ที่ไม่ต้องก้มหรือต้องโน้มตัวไปด้านหน้ารถมากนัก ทำให้การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ BigBike ประเภท Naked Bike นั้นไม่เมือยมากนักทำให้เป็นที่นิยมกันมากในแวดวงผู้ขับขี่ นักเก็ต ไบค์ ซึ่งก็จะมี Ducati Monster 796, Kawasaki Z1000, Kawasaki ER6N, Ducati Streetfighter, KTM Duke เป็นต้น

Sport Bike(สปอร์ต ไบค์)

     Sport Bike(สปอร์ต ไบค์) เป็นรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike ที่ออกแบบให้มีแนวเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ในการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ทางเรียบ ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์แนว Sport Bike จะมีสมรรถนะของเครื่องยนต์และมรรถนะของช่วงล่าง ที่ค่อนข้างสูงกว่ารถมอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์ ประเภทอื่น ส่วนท่วงท่าในการขับขี่ของรถมอเตอร์ไซค์ สปอร์ต ไบค์ จะเป็นการขับขี่แบบกึ่งนั่งกึ่งหมอบ เพื่อให้ผู้ขับขี่นั้นสามารถควบคุมและทรงตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการขับขี่ที่ใช้ความเร็วสูงและรถจักรยนต์ Sport Bike แนวนี้ก็จะมี BMW HP4, Kawasaki Ninja, Ducati Panigale, Yamaha R1, Honda CBR1000 เป็นต้น

Touring Bike(ทัวร์ริ่ง ไบค์)

     Touring Bike(ทัวร์ริ่ง ไบค์) เป็นรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike ที่ออกแบบมาสำหรับคนที่ชื่นชอบการออกทริป การขับขี่ในระยะทางไกล และใช้เวลานาน สามารถวิ่งในสภาพพื้นถนนที่ขรุขระ ซึ่งรถมอเตอร์แนว ทัวร์ริ่งจะมีรูปทรงที่คล้ายๆกับ รถมอเตอร์ไซค์ Sport Bike แต่ตำแหน่งของแฮนด์จะอยู่สูงกว่า ส่วนท่าทางการนั่งจะมีลักษณะที่คล้ายๆกับ รถมอเตอร์ไซค์ Naked Bike ที่จะมีการนั่งขี่ที่สบาย และจุดสังเกตุของรถมอเตอร์ไซค์แนว Touring ก็คือจะมีชิวล์หน้าขนาดใหญ่ที่สามารถบังลมและฝนที่จะเข้ามาปะทะตัวผู้ขับขี่ได้ และรถแนวนี้ก็จะมี Kawasaki Versys, Ducati Multistrada 1200 S, BMW K1600 GT เป็นต้น

Chopper Bike(ชอปเปอร์ ไบค์)

     Chopper Bike(ชอปเปอร์ ไบค์) เป็นรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike อีกหนึ่งประเภทที่มีขนาดใหญ่ ที่ต้องเรียว่า ชอปเปอร์ ก็เพราะรถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ มีเสียงของเครื่องยนต์ที่ดัง และยังดังเป็นจังหวะๆ คล้ายๆเสียงของเฮลีคอปเตอร์ จงทำให้เรียกรถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ว่า Chopper Bike นั่นเอง ซึ่งการที่รถประเภทนี้มีเสียงเครื่องยนต์ที่ดังแบบนี้เกิดจาก รถมอเตอร์ไซค์ ชอปเปอร์ ไบค์ ใช้เครื่องยนต์ 2 สูบ แบบ V มีการจุดระเบิดพร้อมกันทั้ง 2 สูบ จึงทำให้เสียงของเครื่องยนต์ที่ออกมาดังเป็นจังหวะแบบนี้ ส่วนรถประเภทนี้จะออกแบบมาให้มีที่นั่งที่ต่ำและมีแฮนด์ที่สูง อันนี้ขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่ว่าจะใส่แฮนด์สูงขนาดไหนโดยรถประเภท Chopper Bike ก็จะมี Harley Davidson, Kawasaki Vulacn, Victory เป็นต้น

การประกอบรถ Big Bike

1.รถจากประเทศญี่ปุ่น หรือ สหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะถอดอะไหล่ เป็นชิ้นส่วน ส่งมาประเทศไทย 
2.รถได้นำเข้ามาเป็นอะไหล่ 1 คัน ประมาน 5-6 กล่อง โดย จะมีการเขียนหมายเลขไว้
3. ล้างเครื่อง เฟรม ส่วนต่างๆของรถให้สะอาด
4.เอาชุดสีไปส่งร้านทำสี โครมเหมี่ยม เปลี่ยนยางมือ1หน้า-หลัง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใส่กรอง น้ำมันเบรค ผ้าเบรค เเบต
5.ล้างเพื่อพร้อมประกอบชุดสี
6.ประกอบเป็นค้น นำไปลอง เบคร ศูนย์ ฯ ติดโลโก้ ล้าง

10 อับดับ Big Bike ที่เเพงที่สุดในโลก

10. Icon Sheene ราคา 172,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 5,960,488 บาท


9. MTT Turnbine Streetfighter ราคา 175,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 6,064,450 บาท


8. Suzuki AEM Carbon Fiber Hayabusa ราคา 200,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว  6,930,800 บาท


7. Ducati Testa Stretta NCR Macchia Nera Concept ราคา 225,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 7,797,150 บาท


6. Ducaiti Desmosedici D16RR NCR M16 ราคา 232,500 เหรียญสหรัฐ หรือราว 8,057,055 บาท


5. Ecosse Titanium Series FE TI XX ราคา 300,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 10,396,200 บาท


4. Yamaha Roadstar BMS Chopper ราคา 500,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว  17,327,000 บาท


3. Dodge Tomahawk V10 Superbike ราคา 555,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 19,059,700 บาท


2. Harley Davidson Cosmic Starship ราคา 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 34,654,000 บาท


1. Airbus Ecosse ES1 Superbike ราคา 3.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว  124,754,400 บาท


5 อันดับ Big Bike 1000cc ที่นิยมที่สุดในไทย






ขอบคุณที่่รับชมจ้า








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น