หน้าแรก

วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

รองเท้าผ้าใบConverse

รองเท้าผ้าใบ Converse


     Converse รองเท้าที่วัยรุ่นทั่วโลกทุกคนต้องรู้จักเป็นอย่างดี แท้จริงแล้วมีตำนานเก่าแก่กว่า 107 ปี! และกว่าจะมาเป็น รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส ต้องผ่านอะไรมามากมาย และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของรองเท้าระดับตำนาน ที่มีสัญลักษณ์ที่คุ้นเคยกันดีด้วยรูปดาว 5 แฉก ในปัจจุบัน

      ประวัติรองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส
     รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส มีต้นกำเนิดในปี 1908 ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ก่อตั้งที่ชื่อว่า Marquise Mills Converse ซึ่งขณะนั้นมีอายุ 46 ปี (แค่เริ่มก่อตั้งก็ไม่วัยรุ่นแล้ว) ในร้านแห่งแรกขึ้นที่เมืองมัลเดน แต่เอาเข้าจริง ๆ สิ่งที่สร้างชื่อให้กับรองเท้า Converse นั้นอยู่ที่ปี 1917 เมื่อทางบริษัทฯ ได้ออกรองเท้ารุ่น “All-Star” ออกมา และในปีนั้นเองนักบาสเก็ตบอลคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Chuck Taylor ได้มองเห็นโอกาสในรองเท้าคู่นี้ จึงเข้าร่วมทำงานกับบริษัทฯ แล้วทำหน้าที่เป็นทั้งคนขายและพรีเซนเตอร์โปรโมทสินค้าเมื่อแข่งกีฬาบาสเก็ตบอลไปทั่วสหรัฐฯ   

บิ๊กไบค์


ประวัติบิ๊กไบค์ Big Bike


     Bigbike คือ คำที่ใช้เรียกรถมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดใหญ่กว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆไปหรือที่เรียกกันจนติดปากว่า สี่สูบ ขนาดของมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดใหญ่ในที่นี้คือขนาดของเครื่องยนต์ เฟรม ล้อและยางของรถ รถที่เรียกว่าBigbike จะมีความจุของเครื่องยนต์ตั้งแต่ 250 cc ขึ้นไปจนถึง 2400 cc ซึ่งในแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็จะมีรูปแบบของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่แตกต่างกันออกไปซึ่งจะมีตั้งแต่สูบเดี่ยว ถึง 6 สูบ และจัดวางอยู่ในรูปแบบของสูบเรียงและสูบ vในส่วนระบบส่งกำลังก็จะมีตั้งแต่ระบบที่ใช้โซ่ ใช้เพลาขับ และใช้สายพาน เป็นต้น
     Naked Bike เป็นชื่อที่ใช้เรียกรถBigbike ที่มีรูปแบบเป็นรถเปลือยแฟริ่งในส่วนด้านหน้า จะมีแฟริ่งในส่วนด้านท้ายของรถเท่านั้น ข้อดีของรถประเภทนี้คือสามารถใช้ขับขี่ในเขตชุมชนที่มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่นได้ง่ายและสามารถระบายความร้อนออกจากเครื่องยนต์ได้ดีกว่ารถ Bigbike ประเภทอื่นๆ และยังมีการออกแบบให้มีท่วงท่าในการขับขี่ที่ไม่ต้องก้มหรือโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อจับแฮนด์มากนัก โดยมีการออกแบบให้แฮนด์อยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างสูงและมีเบาะที่ต่ำกว่ารถ Sport Bike
     Sport Bike คือรถBigbike ที่มีการออกแบบมาเพื่อใช้ในการแข่งขันทางเรียบเนื่องจากรถประเภทนี้จะมีสมรรถนะของเครื่องยนต์และช่วงล่างสูงมากกว่ารถBigbike ประเภทอื่นๆ ซึ่งรถประเภทนี้มีท่วงท่าในการขับขี่แบบกึ่งนั่งกึ่งหมอบเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและทรงตัวในการใช้ความเร็วสูงๆและควบคุมอาการของรถในการเข้าโค้งได้เต็มประสิทธิภาพ

วันเสาร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2561

สิงหไกรภพ


สิงหไตรภพ หรือ สิงหไกรภพ


ยุคสมัยที่เเต่ง : รัชกาลที่ 2,รัตนโกสินทร์
ผู้เเต่ง             : สุนทรภู่
คำประพันธ์     : นิทาน
ฉันทลักษณ์    : กลอนเเปดสุภาพ

เนื้อเรื่องย่อ
          กาลครั้งหนึ่งในอดีตกาลนานมาแล้ว ณ นครโกญจา “พระเจ้าอินณุมาศ” และ “พระนางจันทร์แก้ว” ซึ่งเป็นพระราชาและพระราชินีได้ปกครองบ้านเมืองด้วยทศพิธราชธรรมอย่างร่มเย็นเป็นสุข แต่ทั้งสองพระองค์กลับไม่มีโอรสและธิดาเลย ปรารถนาใคร่จะได้บุตรไว้สืบสันตติวงศ์ แต่หลายปีผ่านไปก็ยังไม่สมปรารถนา
        จนกระทั่งวันหนึ่ง “แม่ทัพอำนาจ” ยกทัพไปปราบ “โจรสลัดหิมวัฒน์”และพรรคพวกได้แล้ว จึงพาตัวลูกชายของจอมโจรวัย ๕ ขวบ มาถวายพระเจ้าอินณุมาศและพระนางจันทร์แก้ว เมื่อทั้งสองพระองค์ทรงทอดพระเนตร ก็รู้สึกเอ็นดูรักใคร่ ปรารถนาจะได้เด็กนั้นเป็นบุตรบุญธรรม แม้แม่ทัพอำนาจ กับ “อำมาตย์กุศล”ต่างก็ได้ทูลทัดทานว่าจะเป็นการเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้ ซึ่งอาจเกิดเภทภัยในวันข้างหน้าได้ แต่ทั้งสองพระองค์ก็ไม่ทรงสนพระทัย ด้วยความรักความหลงในเด็กน้อยนั่นบังตาเสียสิ้น พระเจ้าอินณุมาศได้ตั้งชื่อเด็กน้อยนั้นว่า “คงคาปราลัย” โดยคงคาปราลัยเติบโตขึ้นมาพร้อมกับนิสัยที่ดุร้ายไม่ผิดกับผู้เป็นพ่อ ยิ่งได้ “อำมาตย์กระแจะ” กับ “อำมาตย์กระจาน” คอยยุยงส่งเสริมหวังประจบเพื่อความดีความชอบแล้ว ก็ยิ่งทำให้คงคาปราลัยกระทำการชั่วช้าสามานย์มากยิ่งขึ้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าพระราชาและพระราชินีก็จะประจบประแจงเอาอกเอาใจ จนพระราชาและพระมเหสีต่างก็หลงใหล ไม่ทรงล่วงรู้ถึงพฤติกรรมที่แท้จริงของคงคาปราลัยเลย         ต่อมาพระนางจันทร์แก้วทรงสุบินประหลาดว่า ...พระนางได้ดวงอาทิตย์มาแล้วกลับถูกแย่งชิงไป โดยผู้วิเศษ... ...โหรทำนายว่าจะได้พระโอรสไว้สืบสกุลและจะเป็นพระโอรสที่ยิ่งใหญ่ประเสริฐและเกรียงไกรดุจดังพระอาทิตย์ แต่เมื่อยังเล็กจะถูกพรากจากกันไป แต่เมื่อเติบใหญ่จึงจะได้พบกันอีกครั้ง... ทำให้คงคาปราลัยเกิดความอิจฉายิ่งนัก จึงสมคบคิดกับอำมาตย์ฝ่ายของตน ก่อการกบฏแย่งชิงราชบัลลังก์จากพระเจ้าอินณุมาศพระบิดาเลี้ยงของตนเอง พระเจ้าอินณุมาศกับพระนางจันทร์แก้วต้องหลบหนีภัยออกจากพระนครไป แล้วไปหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า เมื่อพรานสิงห์มาพบเข้าก็สงสารจึงพามาอยู่ในหมู่บ้านด้วยกัน โดยให้ช่วยทำไร่ทำนาทดแทนบุญคุณฝ่ายอำมาตย์กุศล และ “หมื่นระบิล” จำใจต้องยอมสยบต่อคงคาปราลัยไปก่อน เพื่อคอยหาจังหวะช่วงชิงอำนาจ และราชสมบัติกลับคืนมาในภายหลัง คงคาปราลัยเมื่อได้ขึ้นเป็นพระราชาก็ก่อการปล้นฆ่าชาวบ้านด้วยความคึกคะนองหยาบช้าของตน เมื่อชอบใจหญิงสาวสวยคนใหน ไม่ว่าจะเป็นลูกเต้าเมียใครที่ถูกใจ ก็จะให้ทหารไปนำตัวมาบำเรอกามของตนเองให้ได้ จนทำให้บ้านเมืองเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า แล้วในที่สุดอำมาตย์กุศลกับพรรคพวก และชาวเมืองก็หาทางกำจัดคงคาปราลัยได้สำเร็จในที่สุด         แล้วจึงพากันออกตามหาพระราชาอินณุมาศและพระมเหสีให้กลับมาครองบัลลังก์เหมือนเดิม ซึ่งพระนางจันทร์แก้วได้คลอดลูกออกมาเป็นชายสมดั่งที่โหรทำนายไว้ไม่มีผิด ก็ปลาบปลื้มโสมนัสยินดีปรีดาเป็นยิ่งนัก เฝ้าถนอมเลี้ยงดูเป็นอย่างดี แต่ก็ยังถูกชาวบ้านบางคนไม่พอใจ คอยหาทางกลั่นแกล้งให้ออกไปทำงานหนักในไร่ในนาทั้งๆที่ลูกน้อยยังอ่อนวัยอยู่ จึงต้องทิ้งลูกเอาไว้กับเด็กชาวบ้านตามลำพัง

สังข์ทอง



สังข์ทอง ตอน กําเนิดพระสังข์




เนื้อเรื่องย่อ 

กาลปางก่อน มีพระเจ้าพรหมทัต(ท้าวยศวิมล) ครองเมืองพรหมนคร(เมืองยศวิมล)พระเจ้าพรหมทัตมีมเหสีสององค์   มเหสีฝ่ายขวาชื่อพระนางจันทราเทวี (นางจันเทวี)มเหสีฝ่ายซ้ายชื่อพระนางสุวรรณจัมปากะ (นางจันทา) พระเจ้าพรหมทัตโปรดมเหสีฝ่ายซ้ายมาก ต่อมามเหสีทั้งสองทรงครรภ์ โหรทำนายว่าบุตร ของมเหสีฝ่ายขวาเป็นชาย ส่วนมเหสีฝ่ายซ้ายเป็นหญิง พระนางสุวรรณจัมปากะรู้สึกเสียใจที่จะได้ธิดาแทนจะเป็นโอรส และเกรงว่าพระนางจันทราเทวีจะได้ดีกว่า จึงใส่ร้ายพระนางจันทราเทวีจนพระเจ้าพรหมทัตหลงเชื่อขับไล่พระนางจันทราเทเวีออกจากพระราชวัง พระนางจันทราเทวีเดินทางด้วย

ความยากลำบาก เมื่อถึงชายป่านอกเมือง ยายตาสองคนสงสารจึกชวนให้พักอยู่ด้วยโอรสในครรภ์ของพระนางจันทราเทวีเห็นความยากลำบากของพระมารดาจึงแปลงกายเป็นหอยสังข์เพื่อไม่ให้พระมารดาต้องลำบากเลี้ยงดู เมื่อครบกำหนดคลอด พระนางจันทราเทวีก็คลอดโอรสออกมาเป็นหอยสังข์ ซึ่งพระนางก็รักใคร่ เลี้ยงดูเหมือนลูกมนุษย์
      วันหนึ่งพระนางจันทราเทวีออกจากบ้านไปช่วยตายายเก็บผักหักฟืน ลูกน้อยในหอยสังข์ก็ออกจากรูปหอยสังข์ช่วยปัดกวาดบ้านเรือน และหุงหาอาหารไว้ พอเสร็จก็กลับเข้าไปในรูปหอยสังข์ตามเดิม พระนางจันทราเทวีเมื่อกลับมาก็แปลกใจว่าใครมาช่วยทำงาน และเมื่อนางจันทราเทวีออกจากบ้านไป ลูกน้อยในหอยสังข์ก็จะออกมาทำงานบ้านให้เรียบร้อยทุกครั้ง พระนางจันทราเทวีอยากรู้ว่าเป็นใคร วันหนึ่งจึงทำทีออกจากบ้านไปป่าเช่นเคย แต่แล้วก็ย้อยกลับมาที่บ้าน   โอรสในหอยสังข์ก็ออกมาทำงานบ้านพระนางจันทราเทวีเห็นโอรสเป็นมนุษย์ก็ดีใจ จึงทุบหอยสังข์เสียและกอดโอรสด้วยความยินดี และตั้งชื่อให้ว่า " สังข์ทอง "